HK Asia Holdings Limited บริษัทการลงทุนที่มีฐานอยู่ในฮ่องกง ยังคงตกเป็นข่าวหน้าหนึ่ง หลังจากคณะกรรมการบริหารอนุมัติการลงทุน Bitcoin ใหม่ การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากบริษัทเห็นราคาหุ้นเกือบสองเท่าจากการซื้อ Bitcoin ครั้งแรก กลยุทธ์ที่กล้าหาญในการรวมสกุลเงินดิจิทัลเข้ากับคลังสมบัติดูเหมือนจะประสบผลสำเร็จ แต่ยังเกิดคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของแนวทางนี้อีกด้วย
การซื้อ Bitcoin ใหม่: กลยุทธ์ที่คุ้มค่าหรือไม่?
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ HK Asia ประกาศว่าได้ซื้อ Bitcoin (BTC) ไปประมาณ 7.88 Bitcoin ด้วยมูลค่ารวมประมาณ 761,705 ดอลลาร์ การลงทุนนี้ได้รับทุนจากแหล่งภายในและทำให้บริษัทมีสินทรัพย์ทั้งหมดประมาณ 8.88 BTC โดยซื้อมาในราคาเฉลี่ย 97,021 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ทำให้มีการลงทุนทั้งหมดประมาณ 861,500 ดอลลาร์ บริษัทได้ทำประกาศนี้ด้วยความสมัครใจ เนื่องจากจำนวนเงินที่ลงทุนอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ทางกฎหมายที่กำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้
การเข้าซื้อครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากการลงทุนครั้งแรกหนึ่ง Bitcoin เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ การซื้อครั้งแรกนี้ส่งผลกระทบทันทีต่อราคาหุ้นของ HK Asia ซึ่งพุ่งขึ้นเกือบ 93% เมื่อปิดการซื้อขายเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ความกระตือรือร้นของนักลงทุนในการบุกเบิกเข้าสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัลนั้นสามารถสัมผัสได้ชัดเจน ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ราคาหุ้นของ HK Asia เพิ่มขึ้นประมาณ 5.7% และซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 6.66 ดอลลาร์ฮ่องกง (86 เซ็นต์) ซึ่งใกล้ถึงระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 6.50 ดอลลาร์ฮ่องกง (84 เซ็นต์) ที่ทำไว้เมื่อเดือนมิถุนายน 2019 ผลประกอบการราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีถือว่าน่าประทับใจ โดยเพิ่มขึ้นถึง 1,700%
อนาคตของ Bitcoin ในธุรกิจ: เทรนด์หรือกระแส?
การตัดสินใจของ HK Asia ที่จะลงทุนใน Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องการเพิ่มผลกำไรด้วยการรวมสกุลเงินดิจิทัลเข้าในคลังของตน HK Asia พิสูจน์การลงทุนครั้งนี้โดย “ความนิยมของสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นในโลกแห่งการค้า” อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ก่อให้เกิดความเสี่ยง รวมถึงความผันผวนของราคา Bitcoin และความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ
แม้จะมีความเสี่ยงเหล่านี้ ตัวอย่างจากฮ่องกงในเอเชียแสดงให้เห็นว่าการลงทุนใน Bitcoin สามารถส่งผลดีต่อราคาหุ้นของบริษัทได้อย่างน้อยในระยะสั้น ยังคงต้องดูกันต่อไปว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในระยะยาวหรือไม่ และบริษัทอื่นๆ จะทำตามตัวอย่างของ HK Asia หรือไม่ อนาคตทางธุรกิจของ Bitcoin จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการแสดงมูลค่าในฐานะสินทรัพย์สำรองที่มั่นคง และสามารถบูรณาการเข้ากับกลยุทธ์ทางการเงินแบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว